ห้องปฏิบัติการกลาง ประเทศไทย
บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด
Central Laboratory (Thailand) Co.,Ltd.
หน้าหลัก | กระดานความรู้ | อัพเดท
Translate to English

การปนเปื้อนจากบรรจุภัณฑ์สู่อาหาร

การปนเปื้อนจากบรรจุภัณฑ์สู่อาหาร
ช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กลุ่มประเทศยุโรปได้พบสารปนเปื้อนในอาหารสำเร็จรูปจากประเทศไทยที่สูงเกินมาตรฐาน โดยเฉพาะประเภทน้ำพริก เครื่องปรุงรส และอาหารที่มีไขมันสูง บรรจุลงในขวดแก้วและมีฝาโลหะปิด สารที่ปนเปื้อนลงในอาหารได้แก่สารพลาสติไซเซอร์ (plasticizers) ซึ่งมาจากปะเก็น (gasket) พลาสติกใต้ฝาปิดขวดแก้ว จึงได้มีคำเตือนมาถึงผู้ประกอบการในไทยหลายครั้งแล้ว และอาจกระทบต่อการส่งออกได้ในอนาคต หากผู้ประกอบการยังไม่มีการปรับตัว

พลาสติไซเซอร์ คือ สารเติมแต่ง (additive) ที่ใส่ลงในกระบวนการผลิตพลาสติกเพื่อทำให้มีสมบัติเปลี่ยนไปคือ มีความอ่อนนุ่ม ยืดหยุ่นสูง ทนต่อสภาวะความเป็นกรดด่าง ทนต่ออุณหภูมิสูง สามารถนำไปใช้งานได้หลากหลาย ทั้งในอุตสาหกรรมอาหารและยา เครื่องมือทางการแพทย์ ของเล่นสำหรับเด็ก เป็นต้น โดยสารเหล่านี้จะไม่ทำปฏิกิริยากับพลาสติกแต่จะไปแทรกอยู่ระหว่างโมเลกุลของพลาสติก ทำให้แรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลอ่อนลง พลาสติไซเซอร์ที่ใช้ในปัจจุบันมีหลายชนิด เช่น สารกลุ่มแธลเลต (phthalate) สารกลุ่มอะดิเพต (adipate) สารกลุ่มมาลีเอต (maleate) และน้ำมันพืชอิพ็อกซิไดซ์ (epoxidized vegetable oils) เป็นต้น

โดยทั่วไปพลาสติกที่ใช้ทำปะเก็นฝาปิดขวดแก้ว จะเป็นพลาสติกประเภทโพลีไวนิลคลอไรด์ (polyvinylchloride: PVC) ซึ่งจะเติมสารพลาสติไซเซอร์ประมาณร้อยละ 25 – 45 โดยน้ำหนัก โดยพลาสติไซเซอร์ ส่วนใหญ่เป็นสารในกลุ่ม แธลเลต และกลุ่มน้ำมันพืชอิพ๊อกซิไดซ์มากที่สุด สารที่เป็นปัญหาได้แก่ ไดเอทิลเฮกซิลแธลเลต (di-(2-ethylhexyl) phthalate, DEHP) ไดนอร์มอลบิวทิลแธลเลต (di-(n-butyl) phthalate, DnBP, DBP) ไดไอโซโนนิลแธลเลต (diisononyl phthalate, DINP) และน้ำมันถั่วเหลืองอิพ๊อกซิไดซ์ (epoxidized soybean oils, ESBO)

เนื่องจากสารพลาสติไซเซอร์เหล่านี้ ไม่ได้ทำปฏิกิริยากับโมเลกุลกับพลาสติก แต่ไปแทรกอยู่ระหว่างโมเลกุลเท่านั้น เมื่อผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อโรคในกระบวนการผลิตอาหารกึ่งสำเร็จรูป ที่มีอุณหภูมิสูงประมาณ 100 – 130 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 1 ชั่วโมง หรือถ้าอาหารเป็นกรดจะใช้ความร้อนไม่ถึง 100 องศาเซลเซียส 7ทำให้สารพลาสติไซเซอร์สลายออกมาและเกิดการปนเปื้อนลงในอาหาร โดยเฉพาะอาหารที่มีไขมันสูง เนื่องจากสารพลาสติไซเซอร์เป็นสารที่ละลายในไขมันได้ดี

สารพลาสติไซเซอร์เหล่านี้ จะไม่ทำให้เกิดอาการพิษอย่างเฉียบพลัน แต่เมื่อได้รับต่อเนื่องจะแสดงอาการพิษเรื้อรัง เป็นผลให้เกิดอาการเลือดออกในปอด (lung hemorrhage) ตับโต (hepatomegaly) เป็นพิษต่อเซลล์ในร่างกาย (cytotoxicity) ทำให้เกิดมะเร็ง (carcinogenicity) เกิดการก่อกลายพันธุ์ (mutagenicity) อย่างไรก็ตาม ผลทางพิษวิทยาที่เกิดขึ้นเป็นผลจากการศึกษาในสัตว์ทดลองเท่านั้น ยังไม่มีผลการศึกษาพิษวิทยาในมนุษย์โดยตรงแต่อย่างใด

กฎหมายเกี่ยวกับมาตรฐานคุณภาพของอาหารและบรรจุภัณฑ์ในประเทศไทย ยังไม่ได้กำหนดถึงปริมาณการปนเปื้อนจากพลาสติไซเซอร์ แต่ก็ได้มีข้อบัญญัติว่าบรรจุภัณฑ์ต้องไม่มีสารใดออกมาปนเปื้อนกับอาหารในปริมาณที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ในขณะที่กฎหมายระหว่างประเทศโดยเฉพาะกลุ่มประเทศยุโรป ได้มีการกำหนดให้อาหารกึ่งสำเร็จรูปจะสามารถปนเปื้อนสารจากฝาของบรรจุภัณฑ์ไม่เกิน 60 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมในอาหาร หรือ 10 มิลลิกรัมต่อตารางเดซิเมตร (mg/dm2) ของพื้นที่ผิวของฝาด้านที่สัมผัสอาหาร โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2551 เป็นต้นไป ยกเว้นสารกลุ่ม ESBO อนุโลมให้มีการปนเปื้อนในระดับไม่เกิน 300 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมในอาหาร จนถึงวันที่ 1 พฤษภาคม 2552 เท่านั้น โดยมีวิธีการมาตรฐานที่ใช้ในการวิเคราะห์สารในกลุ่มแธลเลตและกลุ่มอะดิเพตคือ ใช้วิธี GC-MS และวิธีในการวิเคราะห์สาร ESBO คือ GC-FID ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีราคาสูงมากและมีในห้องปฏิบัติการในประเทศไทยไม่กี่แห่ง

ที่ผ่านมาได้มีคำเตือนมายังผู้ประกอบการในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 25 ครั้งแล้ว และอาจมีมาตรการที่รุนแรงขึ้น แต่เนื่องจากผู้ประกอบการไม่สามารถวิเคราะห์สารพลาสติไซเซอร์เองได้ ต้องส่งไปตรวจสอบที่ห้องปฏิบัติการในต่างประเทศ ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงและใช้เวลานาน ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเริ่มตื่นตัวและให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการอย่างเร่งด่วน โดยต้นปีหน้าจะมีหน่วยงานให้บริการตรวจวิเคราะห์สารพลาสติไซเซอร์ซึ่งจะช่วยลดเวลาและค่าจ่ายลงได้

อย่างไรก็ตาม แนวทางในการจัดการปัญหานี้ควรพิจารณาถึงการลดการปนเปื้อนเป็นอันดับแรก เช่น การพัฒนาบรรจุภัณฑ์โดยลดพื้นที่ผิวสัมผัสระหว่างปะเก็นกับอาหาร การพัฒนาพลาสติกทำปะเก็นโดยใช้สารพลาสติไซเซอร์ชนิดอื่นที่มีความปลอดภัยหรือตามที่มาตรฐานระหว่างประเทศกำหนด หรือการพัฒนารูปแบบบรรจุภัณฑ์ชนิดใหม่ เป็นต้น เพื่อให้อุตสาหกรรมของไทยยังคงดำเนินไปได้ภายใต้สภาวะการแข่งขันที่รุนแรงได้อย่างยั่งยืน


ข้อมูลจาก http://link..

บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CENTRAL LAB THAI ให้บริการตรวจวิเคราะห์ต่างๆ ทั้งผลิตภัณฑ์อาหาร และ ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหาร

เลือกตรวจวิเคราะห์ออนไลน์กับเราได้ที่ เมนูหลักเลือกตรวจวิเคราะห์

โดย admin 2565/10/13 14:24:16
อ่าน: 293, ความเห็น: 0, e

ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ
มาตรฐานคุณภาพของอาหาร , มาตรฐานคุณภาพของบรรจุภัณฑ์ , ตรวจวิเคราะห์สารพลาสติไซเซอร์




พิมพ์ตัวเลข ↑
คุณต้องการตรวจวิเคราะห์ ?
ฉลากโภชนาการ
สารสำคัญกัญชา/กัญชง
น้ำใช้ในกระบวนการผลิต
ฟอร์มขอใบเสนอราคา
สำหรับตรวจวิเคราะห์อื่นๆ ผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหาร (ตรวจวิเคราะห์ได้ทุกอย่าง) โปรดกรอก ฟอร์มขอใบเสนอราคา
ตรวจขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมี
ตรวจสารพิษตกค้างเพื่อการส่งออก
ตรวจผักสดปลอดเชื้อจุลินทรีย์ E. coli, Salmonella spp.
ส่งตัวอย่างมะละกอ เพื่อการทดสอบการดัดแปลงพันธุกรรม
ส่งตัวอย่างเพื่อทดสอบ ปริมาณอะฟลาทอกซินในเมล็ดแมงลัก ลูกเดือย และพริกแห้ง เพื่อส่งออกนอกราชอาณาจักร
Hardline Test Application

Line @FarmKaset
สอบถามเพิ่มเติม
คุณปริม โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset

สะดวกมากขึ้น
1.กรอกฟอร์มออนไลน์ และโอนชำระเงิน
2.ส่งตัวอย่างมาที่ห้องแล็บ
3.รอรับผลทางไปรษณีย์ อีเมล์และไลน์

การตรวจ ผลิตภัณฑ์ กัญชง กัญชา ให้ได้มาตรฐาน ถูกต้องตามกฎหมายรับรอง
Update: 2566/08/30 08:27:01
อ่าน: 644 ความเห็น: 0
ฉลากโภชนาการ ประโยชน์ที่เจ้าของสินค้า ไม่ควรมองข้าม
Update: 2566/08/30 08:23:39
อ่าน: 672 ความเห็น: 0
ตรวจ GMP น้ำ กับ centrallab.online
Update: 2565/12/15 07:22:00
อ่าน: 906 ความเห็น: 0
ตรวจขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมี กับ centrallab.online
Update: 2565/12/15 07:03:41
อ่าน: 906 ความเห็น: 0
ตรวจวิเคราะห์ดิน ปรับการใช้ปุ๋ย ไม่ว่าปลูกพืชอะไร ก็ได้ผลผลิตที่ดีขึ้น ลดต้นทุนปุ๋ยได้สูงกว่าจ่ายค่าตรวจดินหลายเท่า
Update: 2565/12/15 06:51:14
อ่าน: 1091 ความเห็น: 0
ปลาร้าสับผัดสุก รสแซ่บ…
Update: 2565/12/08 14:50:25
อ่าน: 891 ความเห็น: 0
กัญชา ปรุงยังไงไห้เป็นเมนูที่ถูกต้อง และ ปลอดภัย !!
Update: 2565/12/08 14:24:35
อ่าน: 906 ความเห็น: 0
ผักอินทรีย์ คือ ผักปลอดสารพิษ หรือเปล่า?
Update: 2565/12/08 14:18:27
อ่าน: 891 ความเห็น: 0
ต้นทุนต่ำ สร้างรายได้ตลอดปี เลี้ยง ปลาสลิด ในบ่อปูนซีเมนต์
Update: 2565/12/08 14:00:22
อ่าน: 954 ความเห็น: 0
ใครป่วย มีอาการไอ มีเสมหะ ต้องลอง ! สมุนไพรแก้ไอ ขับเสมหะ
Update: 2565/12/08 13:55:08
อ่าน: 889 ความเห็น: 0
© CentralLab.online 2022